ออสการ์ 2017: เวทีแห่งความปั่นป่วน เมื่อ ลา ลาแลนด์ พลาดแชมป์ไปอย่างหน้าอับ

blog 2024-12-17 0Browse 0
ออสการ์ 2017: เวทีแห่งความปั่นป่วน เมื่อ ลา ลาแลนด์ พลาดแชมป์ไปอย่างหน้าอับ

ในประวัติศาสตร์รางวัลออสการ์ มีไม่กี่ครั้งที่เกิดเหตุการณ์สะเทือนวงการภาพยนตร์อย่างรุนแรงเหมือนปี 2017 นั่นคือตอนที่ “ลา ลาแลนด์” หนังรัก-ดนตรีถูกประกาศเป็นผู้ชนะในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม แต่ทว่าปรากฏว่ามันเป็นความผิดพลาดอันใหญ่หลวง! รางวัลจริงควรจะเป็นของ “Moonlight”

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจากความสับสนในการประกาศผลรางวัล โดย Warren Beatty และ Faye Dunaway ผู้ประกาศรางวัลในคืนนั้น ได้รับซองจดหมายผิด ทำให้ Beatty ประกาศชื่อ “ลา ลาแลนด์” ซึ่งเป็นผู้ชิงในสาขาเดียวกัน

ทันทีที่ชื่อ “ลา ลาแลนด์” ถูกอ่านขึ้นมา ผู้กำกับและนักแสดงของภาพยนตร์ต่างดีใจอย่างสุดเหวี่ยง และขึ้นไปบนเวทีเพื่อรับรางวัล

แต่แล้ว…

ความผิดพลาดก็ถูกเปิดเผย!

หลังจากที่ทีมงาน “ลา ลาแลนด์” ยืนยันชัยชนะอยู่พักหนึ่ง ผู้จัดการรายการจึงรีบวิ่งขึ้นเวทีเพื่อขอโทษและแก้ไขข้อผิดพลาด ผู้ประกาศ Faye Dunaway กล่าวว่า “เราได้ประกาศผลรางวัลผิด”

หลังจากนั้น Barry Jenkins ผู้กำกับภาพยนตร์ “Moonlight” และทีมงานก็ถูกเชิญขึ้นไปบนเวทีเพื่อรับรางวัลที่สมควรได้รับ

เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความฮือฮาและวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในวงการบันเทิง Hollywood

สาเหตุของความผิดพลาด

มีการสันนิษฐานว่าความผิดพลาดเกิดจากความไม่ชัดเจนในการจัดซองรางวัล นอกจากนี้ยังมีข้อสงสัยว่าผู้ประกาศอาจไม่ได้ตรวจสอบรายชื่อผู้ชนะอย่างถี่ถ้วน

ผลกระทบของเหตุการณ์

เหตุการณ์ “ออสการ์ครั้งนี้” ได้สร้างความตื่นตะลึงและเป็นที่กล่าวขานไปทั่วโลก นอกจากความสับสนและความผิดหวังสำหรับทีมงาน “ลา ลาแลนด์” แล้ว

เหตุการณ์นี้ยังนำไปสู่การตรวจสอบระบบประกาศรางวัลของออสการ์อย่างเข้มงวดขึ้น

บทเรียนจากออสการ์ 2017

“ออสการ์ 2017” เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าแม้แต่ในงานมหกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็ยังอาจเกิดความผิดพลาดได้ เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้วงการภาพยนตร์และผู้ชมทั่วโลกตระหนักถึงความสำคัญของความรอบคอบและการตรวจสอบข้อมูลอย่างถี่ถ้วน

หลังจาก “ออสการ์ 2017” Academy Awards ได้มีการปรับปรุงระบบการประกาศรางวัลโดย:

  • การยืนยันซองจดหมายโดยผู้ประกาศและทีมงาน

  • การใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยในการประกาศผล

  • การฝึกอบรมผู้ประกาศให้มีความชัดเจน

ความผิดพลาดครั้งนี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์รางวัลออสการ์ และเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับวงการภาพยนตร์

TAGS